วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตำรวจยิ้ม..............

ตำรวจยิ้ม........ยิ้มจริงๆครับ.....................
....วันนี้ ลุงธี จะขอนำภาพของตำรวจวานรนิวาส
ที่พากันฝึกฝนให้รู้จักไหว้ราษฎร.......รู้จักการทักทายยิ้ม
แย้มแจ่มใสให้กับประชาชน.....ตามนโยบายของท่าน ผบ.ตร.
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี 
(ไม่รู้จะอยู่ในตำแหน่งได้อีกสักกี่วัน เพราะการเมืองเริ่ม
เข้ามาบังคับบีบคั้นแล้ว)......เอาละครับไม่พูดมากแล้วละครับ....
เชิญรับชมได้แล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบ...............



ชุดที่ 1 ...สายตรวจจราจร............


ชุดที่ 2 .....สายตรวจจักรยานยนต์........




ชุดที่ 3 ......ฝ่ายอำนวยการ....................




ชุดที่ 4  .....สายตรวจรถยนต์.............





ชุดที่ 5 .......สายสืบ...................




ชุดที่ 6  .....นายตำรวจ...................




เอ้า......ชุดพิเศษ.....ทำพร้อมกัน.....แล้วต่อไปอย่าหน้าบูดละ................


จากนั้น....ก็นำไปใช้ไปปฎิบัติจริงๆ.............



ภาพสุดท้าย...............ลุงธีไหว้ลาท่านผู้ชมคร้าบบบบบบ.........

การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด...........

ครับผม.....ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนรัฐบาลใหม่......เห็นนักข่าวเรียกกันว่า
"รัฐบาลปู 1"ฟังจากนโยบายที่รัฐบาลประกาศที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ประการหนึ่งก็คือ.....การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ...........
ด้วยความเคารพครับ....ในความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ...ขอนุญาต....
นำแนวความคิดเกี่ยวกับการป้องกันและการปราบปรามยาเสพติดมา
นำเสนอกับเขาบ้าง.....ในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องดังกล่าวมานาน
พอสมควรครับ.....การป้องกันและปราบปรามจะได้ผลหรือมีประสิทธิภาพ
.........................................................ต้องทำอย่างนี้ครับ....................

1.ต้องคัดเลือกข้าราชการทุกหมู่เหล่าที่เกี่ยวข้อง....
เอาคนที่มีความรู้...ความสามารถ....
และมีความเสียสละเวลาส่วนตัวไม่มีห่วงทางด้านครอบครัว......
สามารถทุ่มเท วัน-เวลาในการทำงานได้...............
2.ต้องกำจัดข้าราชการทุกหมู่เหล่าที่เกี่ยวข้องที่เข้ามารับตำแหน่ง....
หรือเข้ามาทำงานด้านยาเสพติดโดยวิธีการเล่นเส้นเล่นสาย.....
ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะเป็นตัวถ่วงในการทำงานที่ต้องทำเป็นทีม.....
3.การทำงานต้องทำอย่างต่อเนื่อง...ไม่ใช่ผักชีโรยหน้า........
4.ข้อมูลต้องเป็นเรื่องจริง  ไม่มีการรายงานโกหกเรื่องตัวเลข.......
5.ขั้นหรือความดีความชอบของข้าราชการต้องให้คนที่
เสี่ยงภัยก่อนเป็นอันดับแรก........จากนั้นค่อยให้พวกที่เป็น
ฝ่ายอำนวยการเป็นลำดับรอง.....
6.ต้องมีมวลชนที่มั่นคง....ต่อเนื่อง....ไม่มีการล่มสลาย
หลังจากการรวมพลังหรือแถลงข่าวเสร็จแล้ว.............
8.กฎหมายไม่ต้องปรับปรุงใหม่....ขอให้ผู้ใช้กฎหมายใช้อย่างมี
ประสิทธิภาพก็เพียงพอ....
9.การอบรม....การฟื้นฟู......ไม่สามารถทำให้คนที่ติดยา
เลิกเสพยาได้ถ้าเขากลับมาอยู่ในชุมชนหรือสังคมเดิมๆ....
ควรหาที่อยู่ให้พวกเขาใหม่.....
10.ขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด.....
เพราะต้องสู้กับผู้มีอิทธิพล...





ตำรวจตรวจร้านอาหาร....แหล่งแพร่ยาเสพติด.....




สิงห์กัญชา.....เมาแล้วก่อกวนชาวบ้าน.........




ลุงธี กับมวลชนตำรวจบ้าน.........



หน้าตา...ของคนติดยาเสพติด...ดูไม่ยาก.......



วัยรุ่น....เข้ารับการอบรม.....เสร็จ...กลับบ้าน....เหมียนเดิม.....









วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ไทคัพจบสิ้นแล้ว............

จบสิ้นเฉพาะสำหรับทีม"หนุมาน FC"..เท่านั้นนะครับ.....เพราะทีมของพวกผม
ตกรอบแล้ว....ตกรอบแรก...ส่วนทีมอื่นๆที่เขาเข้ารอบก็สู้กันต่อไปครับ.....
สถิติการแข่งขันของพวกผมมีดังนี้ครับ
ครั้งที่ 1 พบกับทีมบังคับคดี   ผล   แพ้  0 - 4
ครั้งที่ 2 พบทีมชมรมคนรักเพื่อนสว่างแดนดิน   ผล  แพ้  0 - 1
ครั้งที่ 3 สุดท้าย  พบ ทีมอากาศอำนวย  ผล  เสมอ  0 - 0
....จากการเดินทางไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้ก็ได้ประสบการณ์กลับมาเพื่อ
พัฒนาทีมของตนเองต่อไปครับ...นับว่าได้ประโยชน์ไม่น้อย
สิ่งที่ผมได้ปรึกษากับคีย์แมนในทีมว่าน่าจะต้องปรับปรุงพัฒนามีดังนี้ครับ
ข้อ 1. ตัวผู้เล่นรุ่นอายุ 40 ปี เมื่อหามาเพิ่มอีกแล้วจะได้เป็น...........
1.1 อารดีน
1.2   เตี้ยไดนาโม (อายุถึงพอดี)
1.3   แซดบ้านขาม(อายุถึงพอดี)
1.4   ประไพบ้าน 33(อายุถึงพอดี)
1.5   ทรงศิลป์
1.6   ประสิทธิ์
1.7   วิรัตน์
ผู้เล่น 5 ประตู 2 รวมเป็น 7 คน
ข้อ 2.ตัวผู้เล่นรุ่น 45 ปี เมื่อหามาเพิ่มแล้วจะได้เป็น...........................
2.1  ไพศาล (อายุถึงพอดี)
2.2   ขาว (อายุถึงพอดี)
2.3  รองเอ้ว ดอนมุย (อายุถึงพอดี)
2.4    สุวรรณ
2.5  พลขัวก่าย
2.6    ผู้ใหญ่แม
รวม เป็น 6  คน
ข้อ 3. รุ่น 50 ปี  หามาเพิ่มแล้วจะได้เป็น................................. 
3.1  ลุงธี
3.2  ด.ต.สุทธิ์
3.3 ด.ต.บี้
3.4 ด.ต.พรสวรรค์
3.5 ด.ต.พิพพา
รวมเป็น  5  คน
ข้อ 4  จะต้องหาโค้ชมาทำการฝึกสอนให้พวกเรา.....................
  ซึ่งโค้ชคนนี้จะต้องไม่ใช่ผู้ที่ลงร่วมเล่นใสนาม  
 มอบหมายให้ทำหน้าที่โค้ชเพียงอย่างเดียวและทุกคนต้องเชื่อฟังโค้ช 
 ให้เกียรติโค้ชด้วย  ถึงแม้โค้ชอาจจะอายุน้อยกว่าพวกเราก็ตาม.......
นี่คือสิ่งที่ผมและเพื่อนๆที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการรวมทีม
คิดเอาไว้คร้าบบบบบบบ..........















แข่งเมื่อ 26 ส.ค.54 ......พบกับสว่างแดนดิน  แพ้  0 - 1











แข่งเมื่อ 28 ส.ค.54....พบกับอากาศอำนวย  เสมอ 0 - 0



วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หน้าที่ตำรวจในการเดินขบวนพาเหรด.............

ครับ........ในการเดินขบวนไม่ว่าจะเป็นการเดินพาเหรดของกีฬาสีแต่ละโรงเรียน...
การเดินแห่เข็มของ ร.ร.มัธยมวานรนิวาส...การแห่ดาวของชาวบ้านนาบัว.....
การเดินรณรงค์ของ อสม.....สาธารณสุข....กศ.น......การแห่บ้องไฟ....
การแห่พระเวสสันดร..การแห่กระทงวันลอยกระทง.....และอื่นๆอีกจำได้ไม่หมด....
หน้าที่ของพวกกระผม
ที่เป็นตำรวจ ไม่ว่าจะสายตรวจ จร....สายตรวจรถยนต์...สายตรวจ จยย   
ก็คือการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตามเส้นทางที่
ขบวนผ่านนั่นเองคร้าบบบบบบ....สำหรับเมืองวานรนี้จะมีจุดรวมพล  
หรือจุดเริ่มต้นการเดินขบวนอยู่ด้วยกัน  4  จุด  คือ  1.ตลาดคูณทรัพย์  
2.หน้า ธกส.   3.โรงหนังเก่า  และ 4.หน้า สภ.วานรนิวาส  แล้วแต่จุดหมาย
ปลายทางว่าจะไปสิ้นสุดที่ใดครับ.......เส้นทางที่ขาดไม่ได้ก็คือต้อง
ผ่านตลาดสดครับเพราะมีชาวบ้านร้านตลาดคอยดูคอยชมอยู่เป็น
จำนวนมากนั่นเอง..  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 26 ส.ค.54 ช่วงเช้าก็มีขบวนแห่กีฬาสีของ
ร.ร.บ้านวานรนิวาสราษฎร์บำรุง 1 ขบวนครับ   เดี๋ยวจะลองหารูปภาพ
ขบวนพาเเหรดมาให้ชมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ในเมืองวานรนี้ครับ  
เชิญชมได้แล้วครับ ..........

มอบหมายภารกิจ.....กำหนดจุด......วิธีปฏิบัติ.......ก่อนออกทำงาน





การแห่เข็มของนักเรียนชั้น ม.4 ของ ร.ร.มัธยมวานรนิวาส....









ชุดนี้เป็นขบวนกีฬาสีของ ร.ร.บ้านวานร......
....ความจริงมีอีกเยอะครับ...เอาไว้แค่นี้ก่อนผมจะรีบ
ไปแข่งบอลไทคัพ..นัดสุดท้ายครับ...กลับมาจะมาเล่าให้ฟังครับ....


ได้เพิ่มมาอีกเพียงภาพเดียวครับ......สงสัยอยู่อีกเครื่องหนึ่ง.........












วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3................

ครับผม...เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.54)  ผมได้รับจดหมายหนังสือจากสภากาชาดไทย 
ที่ กช.ว. 7687/2554  ลงวันที่  15 ส.ค.2554 เชิญให้ผมไปรับพระราชทาน
เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3  ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.2554 เวลา 14.00 น. 
ณ  อาคารใหม่สวนอัมพร
.....ลุงธี   เองก็ไม่ได้คาดคิดดอกว่าตนเองจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงเพียงนั้น.....
เพราะไม่มีความรู้มาก่อนเลยว่าถ้าตนเองบริจาคโลหิตครบ 50 ครั้งแล้ว
จะได้รับพระราชทานเหรียญดังกล่าว...ลุงธีเริ่มบริจาคเลือดเป็นเรื่องเป็นราว
อย่างสม่ำเสมอก็ตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ.2540 เป็นต้นมาตั้งแต่เศรษฐกิจ
ฟองสบู่แตกโน้นถ้าจำไม่ผิด   .....แต่ทุกวันนี้บริจาคไม่ได้แล้ว
เพราะเลือดลอย........มีคอเรสเตอร์รอลในเลือดสูง...
การที่จะได้รับเหรียญครั้งนี้.......ก็ถือว่าเสียว่าเป็นโชคดีของลุงธีก็แล้วกันครับ.........
เมื่อได้รับทราบเรื่องแล้ว  ลุงธีก็เลยค้นหาที่มาที่ไปของการได้รับ
เหรียญสมนาคุณชั้นที่ 3 ดังกล่าว และขอนำความรู้นั้นมาลงถ่ายทอด
ไว้ในบล็อกของลุงธี...ก็แล้วกันนะคร้าบบบบบบบ

.............................................................................................................

เหรียญกาชาดสมนาคุณ
The Red Cross Awards Medal
               จัดเป็นเหรียญราชอิสริยาภรณ์ประเภทเหรียญที่พระราชทานเป็นที่ระลึก เหรียญนี้สร้างขึ้นโดยพระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๒ ซึ่งสภากาชาดจะได้มอบให้ผู้ประกอบคุณงามความดีตามข้อบังคับสภากาชาดไทย
               พ.ศ.๒๔๓๖     พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการร่วมกันสละทรัพย์เป็นทุนตั้งสมาคมขึ้นสำหรับจัดหาเวชภัณฑ์ให้แก่ทหาร ซึ่งต้องไปราชการในสนามไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานนามว่า สภาอุณาโลมแดงซึ่งภายหลังเปลี่ยนนามเป็น สภากาชาดไทย
               พ.ศ.๒๔๖๑     พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาด พระพุทธศักราช ๒๔๖๑ซึ่งตามพระราชบัญญัตินี้ ยังไม่มีการสถาปนาเหรียญกาชาด สำหรับประดับได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีแต่เครื่องหมายสำหรับสมาชิกสภากาชาดไทย เป็นเข็มกลัดทองลงยา หรือเงินกะไหล่ทองลงยา มีอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ทับบนรูปกาชาดวางอยู่กลาง
               พ.ศ.๒๕๐๒     พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๒เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย พระพุทธศักราช ๒๔๖๑และให้มีเหรียญ กาชาดสมนาคุณ และกาชาดสรรเสริญ ซึ่งสภากาชาดจะได้มอบให้ผู้ประกอบคุณความดี ตามข้อบังคับของสภากาชาดไทย โดยผู้ได้รับเหรียญทั้งสอง ประดับเหรียญนี้ได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์
               เหรียญกาชาดสมนาคุณ มีชนิดเดียว แบ่งเป็น ๓ ชั้น
ชั้นที่ ๑ ทองคำลงยาที่กาชาด
ชั้นที่ ๒ เงินกะไหล่ทอง
ชั้นที่ ๓ เงินรมดำ
               ลักษณะเป็นเหรียญกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒๗ มิลลิเมตร
               ด้านหน้า มีรูปเครื่องหมายกาชาด และรูปนางพยาบาลประคองทารกกับคนชรา
               ด้านหลัง ตรงกลางมีที่ว่างสำหรับจารึกนามผู้ได้รับเหรียญ และพุทธศักราช กับมีอักษรว่าสภากาชาดอยู่ริมขอบบน และ สมนาคุณอยู่ริมขอบล่าง มีห่วงเป็นรูปนก ห้อยกับแพรแถบสีขาวกว้าง ๓ เซนติเมตร ด้านหน้าแพรแถบตรงกลางมีกาชาดลงยาราชาวดีต่างกันแต่ละชั้น
ชั้นที่ ๑ เป็นรูปเครื่องหมายกาชาดลงยาราชาวดีสีแดง
ชั้นที่ ๒ เป็นรูปเครื่องหมายกาชาดอยู่บนวงกลม พื้นลงยาราชาวดีสีขาว ขอบสีทอง
ชั้นที่ ๓ เป็นรูปเครื่องหมายกาชาดอยู่บนวงกลม พื้นลงยาราชาวดีสีขาว ขอบสีเงิน
 

สำหรับบุรุษ ใช้ห้อยกับแพรแถบ ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
สำหรับสตรี ใช้ห้อยกับแพรแถบ ผูกเป็นรูปแมลงปอ
การประดับ
ให้ผู้ได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณประดับเหรียญนี้ได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์
เหรียญกาชาดสมนาคุณมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับ เมื่อผู้ได้รับวายชนม์ ให้ตกทอดแก่ทายาทเพื่อรักษาไว้เป็นที่ระลึก
ให้มีเครื่องหมายประดับแพรแถบเหรียญกาชาดสมนาคุณ
คุณสมบัติของบุคคลที่สมควรได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณ
               ผู้ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณ คือ ผู้ที่ช่วยเหลือสภากาชาดไทยโดยบริจาคเงินประการหนึ่ง โดยการช่วยด้านกำลังกาย กำลังปัญญา จนเป็นผลดีประการหนึ่ง และการบริจาคโลหิตอีกประการหนึ่ง ผู้ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๑ หรือชั้นที่ ๒ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่บริจาค หรือขึ้นกับผลงานที่เป็นประโยชน์แก่สภากาชาดไทย ส่วนผู้ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๓ ขึ้นอยู่กับผลงานเป็นหลัก ทั้งนี้ อาจมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่สภากาชาดไทยกำหนดขึ้น และอาจได้รับการพิจารณาให้ได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๒ และชั้นที่ ๑ ได้
>> คุณสมบัติของผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๑
เป็นผู้ที่บริจาคทรัพย์แก่สภากาชาดไทยเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท
เป็นผู้ที่บริจาคโลหิตแก่สภากาชาดไทยครบ ๑๐๐ ครั้ง
เป็นผู้ที่ช่วยเหลือสภากาชาดไทยด้วยกำลังกาย กำลังปัญญา และแรงงาน
เป็นผู้ที่เป็นหัวหน้าช่วยแนะนำให้มีผู้บริจาคทรัพย์แก่สภากาชาดไทย ตั้งแต่ ๓๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป จนได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๒ แล้ว แต่ยังช่วยแนะนำต่อไปอีกเป็นเวลา ๕ ปี จำนวนไม่ต่ำกว่า ๕ ครั้ง มีสิทธิได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๑
>> คุณสมบัติของผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๒
เป็นผู้ที่บริจาคทรัพย์แก่สภากาชาดไทยเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า ๑๕๐,๐๐๐ บาท
เป็นผู้ที่ชักชวนให้มีผู้บริจาคทรัพย์แก่สภากาชาดไทยเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท
เป็นผู้ที่บริจาคโลหิตแก่สภากาชาดไทยครบ ๗๕ ครั้ง
เป็นผู้ที่ช่วยเหลือสภากาชาดไทยด้วยกำลังกาย กำลังปัญญา และแรงงาน ต้องได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๓ มาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๔ ปี
>> คุณสมบัติของผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๓
เป็นผู้ที่บริจาคโลหิตแก่สภากาชาดไทยครบ ๕๐ ครั้ง
เป็นผู้ที่ช่วยเหลือสภากาชาดไทยด้วยกำลังกาย กำลังปัญญา และแรงงานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
อนึ่ง ผู้ที่ปฏิบัติงานเป็นประโยชน์ยิ่งแก่สภากาชาดไทย อาจได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ



.........เหรียญกาชาดสมนาคุญมีอยู่ 3 ชั้น.......



........เหรียญชั้นที่ 3.....











........การรับพระราชทานเหรียญกาชาด.........







การบริจาคโลหิต.......