ครับผม.....ลุงธีขึ้นหัวข้อหรือชื่อเรื่องว่า " บุญแจกข้าว "
ก็เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ที่บ้านของลุงธีจะมีการจัดงาน
ทำบุญแจกข้าวขึ้นครับ.......
หากเอ่ยคำว่าบุญแจกข้าวขึ้นมา...ประชาชีชาวบ้านร้านตลาดที่
มีพื้นเพอยู่ทางภาคอีสาน....ส่วนมากก็จะทราบและเข้าใจ
ในความหมายของคำว่าบุญแจกข้าวได้ดีระดับหนึ่ง....
แต่คำว่าบุญแจกข้าวนี้....หากได้ยินไปถึงหูของท่านที่อยู่
นอกเขตพื้นที่ภาคอีสาน....อาจจะงงงงหรือเข้าใจไขว้เขว
กันอยู่บ้างนะคร้าบบบ......
เอาเป็นว่าลุงธีจะนำความรู้เรื่องงานบุญแจกข้าวมาถ่ายทอดไว้ใน
บล็อกของลุงธีก็แล้วกันนะคร้าบบบ.....
เชิญอ่านบทความเรื่องการทำบุญแจกข้าวจากบุคคล
ที่เคยให้ความหมายกันไว้....และเชิญชมภาพที่เกี่ยวข้อง
กับงานบุญ"แจกข้าว"...ได้เลยครับ.......
.............................................................................................................
ชาวอีสานมีความเชื่อว่าดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว หากไม่ได้รับการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แล้ว ดวงวิญญาณนั้นก็จะมีแต่ความอดอยากทนทุกข์ทรมานและไม่ได้ไปผุดไปเกิด ด้วยความเชื่อดังกล่าวนี้จึงทำให้มีการจัดงานหรือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่เสียชีวิต หรือเรียกว่า การทำบุญแจกข้าว
การทำบุญแจกข้าวเป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องที่ได้ล่วงลับไป ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านั้นได้เสียชีวิตไปได้ไม่นานมากนัก ประมาณ 1-3 ปี
โดยการทำบุญแจกข้าวนี้ ต้องมีการระบุไปว่ามีความต้องการจะทำบุญแจกข้าวให้ใคร โดยจะมีการจัดงานกันใหญ่พอสมควรโโยมีการบอกกล่าวเพื่อนบ้านใกล้เคียงและ ภายในหมู่บ้านหรือต่างหมู่บ้าน และมีการบอกกล่าวไปถึงญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลให้มาร่วมงานนี้ด้วย
งานทำบุญแจกข้าวนี้นิยมทำกันในเดือนสี่ จะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวอีสานว่างเว้นจากการทำไร่ไถนาจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการทำกิจกรรมนี้ การทำบุญแจกข้าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับชาวอีสานเพราะชาวอีสานมีความเชื่อว่าทุกคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ต้องได้กินข้าวแจก หากคนใดที่เสียชีวิตไปแล้วแล้วไม่ได้ทำบุญแจกข้าวไปให้บุคคลนั้นจะได้รับความอดอยากไม่ได้ไปผุดไปเกิด จะยังคงวนเวียนเพื่อรอรับข้าวแจกจากญาติพี่น้องต่อไป
บุคคลใดเมื่อมีญาติที่เสียชีวิตไปแล้วไม่ได้ทำบุญแจกข้าวอุทิศส่วนกุศลไปให้ ก็จะถูกดูหมิ่นดูแคลนจากคนภายในหมู่บ้าน ว่าไม่รู้จักบุญคุณไม่รักใคร่ญาติที่เสียชีวิตไป เป็นคนเห็นแก่ตัวไม่รู้จักเสียสละ
ก่อนการทำบุญแจกข้าวจะมีการบอกเล่าญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านว่าจะมีการทำบุญ ให้ญาติที่เสียชีวิตไป พอถึงวันทำบุญในช่วงตอนกลางวันจะมีการจัดแต่งเครื่องไทยทาน เรียกว่า ห่ออัฎฐิ และมีการจัดเลี้ยง อาหารกลางวันแก่ผู้ที่มาจัดแต่งเครื่องไทยทานและมาช่วยงานในเรื่องต่างๆ บางครั้งภายในงานก็จะมีการบว๙นาคด้วย ในช่วงเย็นก็จะมีการฟังเทศน์และในช่วงกลางคืนก็ก็จะมีงานมหรสพที่เจ้าภาพของงานว่าจ้างมา ไม่ว่าจะเป็น หมอลำ ภาพยนตร์ เป็นต้น
ในช่วงเช้าของวันใหม่จะมีการถวายอาหารและเครื่องไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยจะนิมนต์มาบ้านเจ้าภาพหรือนำไปถวายที่วัดก็ได้ หลังจากนั้นก็จะมีการถวายผ้าบังสกุล ฟังเทศน์ และกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไป หลังจากนั้นก็จะมีการจัดเลี้ยงอาหารให้ผู้ที่มาร่วมงาน ก็เป็นอันเสร็จพิธี การทำบุญแจกข้าวแก่ญาติที่เสียชีวิตไป
ชนชาวอีสานถือเรื่องความกตัญญูต่อญาติพี่น้องและผู้มีพระคุณ การจัดงานทำบุญแจกข้าวจึงเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้ที่เสียชีวิตไป เพื่อให้ดวงวิญญาณของคนเหล่านั้นได้รับบุญกุศลและไปเกิดใหม่ไม่ต้องวนเวียนเพื่อรอรับส่วนบุญอีกต่อไป
........................................................................
บุญแจกข้าว(ทำบุญอุทิศส่วนกุศล) ภาษาถิ่น เรียก "ทำบุญหา" หรือ "บุญแจกข้าว"
วันโฮมบุญ
เป็นประเพณี ของคนอีสาน ที่ต้องการแสดงออกถึงความรักเคารพ พ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อให้ดวงวิญญาณได้สงบสุข ได้รับส่วนบุญที่ลูกหลาน"ทำบุญหา" หรือ เรียกว่า งานแจกข้าว(อุทิศส่วนกุศล)
กิจกรรมหลักดำเนินการ 3 กิจกรรม
ช่วงที่ 1 วันเตรียมงาน (มื้อเค้างาน) เป็นการเตรียมงานก่อนวันงานวันโฮมบุญ ส่วนมากประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มงาน กิจกรรม ได้แก่ การจ้ดเตรียมสถานที่ ทำความสะอาดบริเวณ ทำข้าวต้ม ข้าวหมก ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม แจกซอง นิมนต์พระ ฯลฯ
ช่วงที่ 2 วันงานรวมญาติ (มื้อโฮม) เป็นวันงาน ที่ญาติพี่น้อง แขกเหรื่อ ที่ได้รับเชิญ หรือ ผู้มีจิตกุศล ต้องการโฮมบุญ ด้วยกัน มีการเทศนาธรรม ตอนเย็นมี มหรสพ (อย่าลืมประสาน สถานีตำรวจทุกครั้งที่จัดจ้างหมอลำ เพราะวัยรุ่น ส่วนมากจะตีกัน)
ช่วงที่ 3 วันถวาย (มื้อถวาย) หลังจากโฮมญาติเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีของโฮมบุญต่าง ๆ ที่ญาติต้องการถวายให้วัด เพื่อเป็นทาน และเป็นการให้ของถวาย ถึงมือ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้อยู่ดีกินดี ในภพชาติ พร้อมนี้ได้นำ กระดูกของผู้ตาย นำไปเก็บไว้ที่ธาตุ ที่วัด เพื่อให้ลูกหลาน กราบไว้ รำลึกถึง ทุกวันปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ตามประเพณีคนอีสานพื้นบ้าน ที่นี่
วันโฮมบุญ
เป็นประเพณี ของคนอีสาน ที่ต้องการแสดงออกถึงความรักเคารพ พ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อให้ดวงวิญญาณได้สงบสุข ได้รับส่วนบุญที่ลูกหลาน"ทำบุญหา" หรือ เรียกว่า งานแจกข้าว(อุทิศส่วนกุศล)
กิจกรรมหลักดำเนินการ 3 กิจกรรม
ช่วงที่ 1 วันเตรียมงาน (มื้อเค้างาน) เป็นการเตรียมงานก่อนวันงานวันโฮมบุญ ส่วนมากประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มงาน กิจกรรม ได้แก่ การจ้ดเตรียมสถานที่ ทำความสะอาดบริเวณ ทำข้าวต้ม ข้าวหมก ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม แจกซอง นิมนต์พระ ฯลฯ
ช่วงที่ 2 วันงานรวมญาติ (มื้อโฮม) เป็นวันงาน ที่ญาติพี่น้อง แขกเหรื่อ ที่ได้รับเชิญ หรือ ผู้มีจิตกุศล ต้องการโฮมบุญ ด้วยกัน มีการเทศนาธรรม ตอนเย็นมี มหรสพ (อย่าลืมประสาน สถานีตำรวจทุกครั้งที่จัดจ้างหมอลำ เพราะวัยรุ่น ส่วนมากจะตีกัน)
ช่วงที่ 3 วันถวาย (มื้อถวาย) หลังจากโฮมญาติเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีของโฮมบุญต่าง ๆ ที่ญาติต้องการถวายให้วัด เพื่อเป็นทาน และเป็นการให้ของถวาย ถึงมือ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้อยู่ดีกินดี ในภพชาติ พร้อมนี้ได้นำ กระดูกของผู้ตาย นำไปเก็บไว้ที่ธาตุ ที่วัด เพื่อให้ลูกหลาน กราบไว้ รำลึกถึง ทุกวันปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ตามประเพณีคนอีสานพื้นบ้าน ที่นี่
................................................................................
การทำบุญแจกข้าวแตกต่างกับการทำบุญ 100 วัน ดังนี้ครับ
-การทำบุญ 7วัน คือ ช่วงที่กายละเอียดยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ สำหรับกรณีผู้ที่ยังไม่ได้ไปมหานรกนะ หมู่ญาติก็จะได้มีโอกาส 7วันนั้น ทำบุญอุทิศไปให้ได้
-การทำบุญ 50วัน คือ ช่วงที่กำลังรอคิวคอยการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก
-การทำบุญ 100วัน คือ ช่วงที่ระหว่าง 50 ถึง 100วัน คือ ช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด เช่น ไปเกิดในมหานรก ไปยมโลก ไปเป็นมนุษย์ เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือไปเป็นเทวาด เป็นต้น
...........................................................
ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ... ผมจะทำบุญแจกข้าว ไม่เคยทำ ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ได้ความรู้และเห็นภาพจริงๆ ขอบคุณมากๆ ครับ
ตอบลบยินดีมากมายคับ...
ลบขอบคุณข้อมูลคะ กำลังจะทำบุญหายายเดือนหน้าคะ
ตอบลบยิินดีมากคับ
ลบขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีครับ
ตอบลบยนดีมากคับ
ลบยินดีมากคับ
ตอบลบงบประมาณรวมทุกสิ่งอย่าง เท่าไหร่
ตอบลบอันนี้ก็แล้วแต่เจ้าภาพนะครับ ผมว่าทำตามงบที่มีอยู่เป็นดีที่สุดครับ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ