ถูกต้องแล้วคร้าบบ...เดินทางอีกแล้วครับพี่น้องชาวควบคุมฝูงชน
กองร้อยที่ ๑ ภ.จว.สกลนคร
ไปคราวนี้จำนวน ๗ วัน คือ ๙ - ๑๕ ต.ค.๒๕๕๖
เชิญชมภาพกิจกรรมของพวกเราได้แล้วคร้าบบบ.......
รวมพลที่ สภ.สว่างแดนดิน
....ครับผม...มาบัดนาวลุงธีกะคุณแต๋วก็ได้คุยกันแล้วและตกลงกันว่าประมาณวันที่๙-๑๑ ต.ค.๒๕๕๖
นี้ จะพากันไปขึ้นภูกระดึงกันอีกครั้ง นับว่าเป็นครั้งที่ ๑๗ และ ครั้งที่ ๘ ของลุงธีกับคุณแต๋ว
ลุงธีก็เลยขอนำข้อมูลในการท่องเที่ยวภูกระดึงจากเฟสของเพื่อนๆคอเดียวกันมาลงให้ชมกันเพื่อเรียกน้ำย่อยนะคร้าบบ...เชิญชมได้แล้วคับ...
10 สิ่งไม่ควรพลาด เมื่อไปภูกระดึง ดึ๋ง ดึ๋ง
11413 views
Posted on : 3/01/2556 written by Chillchan Milchan |
ภูกระดึง ใครๆก็เฝ้าฝันถึง ว่าวันหนึ่งจะขึ้นไปเยือน
แต่ด้วยความยากลำบากฝ่าฝันกันกว่าจะขึ้นไปถึงยอดภู
มันเลยกลายเป็นเสน่ห์อย่างที่ใครหลายคนจดจำไปนานแสนนาน
มาดูกันดีกว่าว่า 10 อย่างที่ไม่ควรพลาดเลย เมื่อขึ้นมาถึงภูกระดึง
......มีอะไรกันบ้าง......
![]() กว่าจะถึงหลังแปนั้น ทางขึ้นภูกระดึงในระยะทาง 5.5 กม. เราจะผ่านด่านทั้ง 10 ด่าน หรือที่เรียกๆกันว่า "ซำ" นั่นเเหละ คนทั่วไปใช้เวลาเดิน 3-5 ชม. ระหว่างทางที่ไป มีช่วงซำเเฮกที่เป็นลักษณะเป็นหินชันต้องปีนป่าย พอพ้นช่วงนั้นไปได้ จะเป็นทางราบเรียบ จากนั้นก็เป็นทางเดินขึ้นเขาตลอด มีบันไดบ้าง ไม่มีบันไดบ้าง จนถึงช่วงสุดท้าย จากซำเเคร่ ถึง หลังแป นั่นคือช่วงที่เหนื่อยที่สุดของการเดินขึ้น เพราะช่วงนี้จะมีเเต่หินชันที่ต้องปีนป่าย หากเหนื่อยนัก อยากทานอะไรเย็นๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีร้านอาหารข้างทางตามซำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แตงโมเย็นๆ ไอศกรีม น้ำปั่น ข้าวเหนียว ส้มตำ อาหารตามสั่ง ขนมจุกจิกทุกชนิด เครื่องดื่มทุกอย่าง(ยกเว้นแอลกอฮอล์นะ) เรียกได้ว่า อยากกินไรข้างทางให้หายเหนื่อยก็มีให้ครบอ่ะ เเต่ราคาก็สูงกว่าภาคพื้นดินนะ ![]() ![]() ![]() ![]() 2. กางเต๊นท์นอนที่วังกวาง ![]() หายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเท้าขึ้นมากับระยะทาง 5.5 กม. แต่ก็ดีใจเก้อเมื่อมองป้ายบอกว่า เอ่อ.. อีก 3 กิโลนี่หว่า กว่าจะถึงจุดกางเต็นท์หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เเต่พื้นบนภูกระดึงนี้ จะมีเเต่ทางเดินเรียบๆ บนพื้นทรายนุ่มๆ เดินสบายไม่ลำบากค่ะ เมื่อขึ้นไปถึงศูนย์บริการฯ นั้นคือ ติดต่อเช่าถุงนอน เบาะรองนอน หมอน จากนั้นก็ติดต่อเรื่องเต็นท์อุทยาน(สามารถจองได้ในระบบออนไลน์ทางเว็บไซต์ของอุทยาน) ส่วนสัมภาระที่ฝากไว้กับลูกหาบนั้นคงต้องรอการเดินทางมากันนิดหน่อย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (วังกวาง) เป็นศูนย์กลาง ทั้งเรื่องที่พักแหล่งกิน และการให้คำแนะนำและความช่วยเหลือ ลานกางเต็นท์ที่วังกวางนั้นกว้างขวางอยู่ใต้ลานสน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากมาย ที่นี่มีกวางเจ้าถิ่นอยู่ 2 ตัว ใครตาดีหาให้เจอนะ เย็นๆมักจะมาหานักท่องเที่ยวแล้ว เพราะตามกลิ่นอาหารมา~~~ ![]() ![]() ![]() ![]() 3. ชมสระอโนดาตยามเย็น ![]() วันแรกที่มาถึงภูกระดึง หากใครมีเวลาเหลือก่อนจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ก็แนะนำให้เดินไปที่สระอโนดาตก่อน ใช้ระยะทางเกือบๆ 3 กม. จากวังกวาง สระอโนดาตมีลักษณะเป็นสระน้ำขังคล้ายบึง มีธารน้ำผ่านไหลไปตามร่องหิน ถือแหล่งน้ำที่สำคัญของสัตว์ป่าบนภูกระดึง โดยเฉพาะในหน้าแล้ง เพราะจะมีน้ำขังอยู่ตลอดปี สิ่งที่สร้างบรรยากาศให้สระแห่งนี้คือดงสนที่แวดล้อมอยู่รอบๆ ถ้าคุณไปในตอนเย็น เมื่อแสงสีทองอาบไล้ต้นสน จะเห็นเงาสนทอดตัวเป็นแนวยาวบนพื้นอยู่ริมสระ เป็นภาพที่สวยงามมาก เหมือนเราไปปางอุ๋งเลยล่ะ ![]() ![]() ![]() 4. พระอาทิตย์ตกคืนแรกที่ผาหมากดูก ![]() จุดชมพระอาทิตย์ตกสุดฮิตอันดับสองของภูกระดึง เพราะอยู่ใกล้ศูนย์บริการฯมากที่สุด แค่ประมาณ 2 กม. เท่านั้น ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นมาเที่ยวภูกระดึงจะชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ในคืนแรก ส่วนคืนที่สองเขาจะเดินไปชมความงามของพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก The Must ของภูกระดึงจ้า อย่าลืมพกเสื้อกันหนาวและไฟฉายติดตัวไว้ด้วย เพราะเป็นสิ่งจำเป็นเวลาเดินเท้ากลับที่พัก ![]() ![]() ![]() 5. เดิน 9 กิโลเมตรไปผาหล่มสัก ![]() ตามโปรแกรมมาตรฐานเที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืนนั้น ในวันที่ 2 ก็จะต้องออกเดินเที่ยว หรือใครจะเช่าจักรยานปั่นก็ได้ ไปตามรายทางจนไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันที่จุดชมพระอาทิตย์ตกสุดฮิต นั่นคือ "ผาหล่มสัก" นั่นเอง ส่วนระหว่างทางจะไปเที่ยวไหนนั้น ก็มีที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะไปชมน้ำตกบ้าง และก็ไปตามผาต่างๆ ตั้งแต่ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง เเล้วไปลงเอยที่ผาหล่มสัก ระหว่างทางไปจนถึงผาหล่มสัก ก็จะพบธรรมชาติที่กว้างใหญ่บนภูกระดึง ไม่ว่าจะเป็นต้นสนมากมาย วิวทิวทัศน์สวยงามที่หน้าผาแต่ละจุด ต้นกระดุมและดอกไม้เล็กๆข้างทาง แม้กระทั่งดอกหญ้าก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน และยังมีร้านค้ามีเปิดบริการอยู่เรื่อยๆ ทั้งส้มตำไก่ย่าง ไข่ปิ้ง น้ำแข็งไส ผลไม้ เพียบเลยไม่จำเป็นต้องหิ้วเสบียงให้เมื่อยตุ้มหรอกนะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() 6. เที่ยวน้ำตกตามหาใบเมเปิ้ลแดง ![]() เส้นทางเที่ยวน้ำตก จุดเริ่มเส้นทางอยู่ด้านหลังบริเวณที่พักหรือบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(วังกวาง) เส้นทางส่วนใหญ่จะเลาะไปตามลำห้วยที่ร่มรื่นด้วยป่าดงดิบเขา ระยะทางประมาณ 5-6 กม. ผ่านน้ำตกมากมาย ได้แก่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ และผ่านองค์พระพุทธเมตตา โดยสามารถเดินเป็นวงรอบได้ นอกจากน้ำตกสวยๆ ที่มีหลายแห่งแล้ว ยังมีต้นเมเปิล ซึ่งในช่วงปลายเดือน ธ.ค.-ม.ค. ใบเมเปิลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพร้อมเพรียงกัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้พบเห็น ![]() ![]() ![]() ![]() 7. ไม่มาถือว่ามาไม่ถึงภูกระดึง... ผาหล่มสัก ![]() เป็นผายอดนิยมและเป็นจุดหมายสำคัญที่สุดของผู้มาเยือนภูกระดึง นักท่องเที่ยวทุกคนล้วนมุ่งมาชมพระอาทิตย์ตกที่ผานี้และนั่งถ่ายภาพบนชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา โดยมีสนต้นหนึ่งแผ่กิ่งก้านเป็นองค์ประกอบประดับไว้อย่างสวยงาม พระอาทิตย์ตกว่าสวยเเล้ว เเต่ชอทหลังจากพระอาทิตย์ตกไปแล้วนี่สิ...สวยยิ่งกว่า ท้องฟ้าเริ่มมืด เเสงสีของท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพู เเละเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันจะเป็นภาพซิลลูเอตของต้นสนตัดกับท้องฟ้า สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ![]() ![]() ![]() ![]() 8. หม่ำจิ้มจุ่ม หมูกระทะร้อนๆ มื้อเย็นให้หายเหนื่อย ![]() ให้รางวัลตัวเอง กับน่องที่ปวดร้าวมากจากการเดินเท้ามาทั้งวัน เมื่อมาถึงศูนย์ฯวังกวาง จะมีร้านอาหารมากมาย ไว้บริการนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าภูกระดึงนี่ มีความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินบนนี้มาก มีทุกอย่างที่คุณอยากได้ ...จิ้มจุ่ม หมูกระทะ สุกี้ โจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง มาม่า อาหารตามสั่ง น้ำอัดลม น้ำร้อน ไข่ต้ม (ยกเว้นเครื่องดื่มเเอลกอฮอลล์) ฯลฯ โอ้ยย...เปรมจนลืมความเหนื่อย~~ บอกไว้นิดนึง... ร้านอาหารบางร้านมีบริการชาร์ทแบตโทรศัพท์มือถือฟรีนะ ถ้ามาทานอาหารร้านเค้าน่ะ (แต่จริงๆแล้วที่อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็มีจุดฝากชาร์ทมือถือเหมือนกัน เสียเงินไม่กี่บาท แต่ต่อคิวยาวเชียวถ้าวันนั้นเป็นฤดูท่องเที่ยว) ![]() ![]() ![]() 9. ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ![]() จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ใกล้ที่สุดจากวังกวาง ถือว่าไม่มาไม่ได้เหมือนกันหากมาเที่ยวภูกระดึง อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (วังกวาง)ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กม. ช่วงฤดูหนาวในยามเช้าทิวทัศน์เบื้องล่างจะมีทะเลหมอกปกคลุมสวยงามมาก จนเมื่อแสงแดดขับไล่หมอกให้จางลงแล้วจึงจะเห็นทิวทัศน์ของบ้านผานกเค้า ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางในการเดินเท้ามาผานกแอ่นด้วย เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินของช้างป่า เมื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว สามารถเดินไปยังลานวัดพระแก้วซึ่งอยู่ห่างไปราว 500 ม. ได้ ลานหินแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 ช่วงปลายฝนต้นหนาวพันธุ์ไม้บนลานหิน เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา เอื้องม้าวิ่ง ฯลฯ จะพากันออกดอกงามละลานตา หรือจะถ่ายภาพหยดน้ำค้างตามยอดหญ้าในยามเช้า ที่มีหมอกปกคลุมไปทั่ว ก็มีความสุขได้ไม่แพ้กัน ![]() ![]() ![]() ![]() 10. ถ่ายรูปคู่กับป้ายผู้พิชิตภูกระดึง ![]() ก่อนลงจากภูกระดึง สิ่งสุดท้ายที่ควรทำเลย ก็คือการฝากภาพถ่ายคู่กับป้ายนี้เป็นที่ระลึกในความทรงจำ "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" คือวลีเด็ดใช้มานานหลายปี ของผู้กล้าที่มาเยือนภูกระดึงทั้งหลาย เพราะเป็นการพิสูจน์ตัวเเละหัวใจของตัวเอง เก็บความประทับใจที่มีต่อธรรมชาติ ต้นสน เสียงลม สายหมอก ไว้เป็นเเรงใจ ยามที่ต้องนั่งทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเเคบๆ ในยามที่ต้องฝ่าฟันกับรถติดอากาศร้อนในเมืองกรุงน่ะสิ |